มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ บ้านพลังงานสะอาดสำหรับลูกค้า มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี

จับมือธนาคารกสิกรไทย ลีสซิ่งกสิกรไทย อินโนพาวเวอร์ และเอสซีจี รูฟฟิ่ง ร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

กรุงเทพฯ – 25 พฤศจิกายน 2565: บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผนึกกำลังกับธนาคารกสิกรไทย ลีสซิ่งกสิกรไทย อินโนพาวเวอร์ และเอสซีจี รูฟฟิ่ง เปิดตัวแคมเปญ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ (Dendo Drive House) บ้านพลังงานสะอาดสำหรับลูกค้า มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่มีการนำระบบนิเวศพลังงานที่สามารถผลิต-จัดเก็บ-แบ่งปันพลังงานระหว่างรถยนต์และที่พักอาศัยได้โดยอัตโนมัติ (ด้วยเทคโนโลยี Vehicle to Home หรือ V2H) มาใช้ในครัวเรือน


แคมเปญ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ (Dendo Drive House) ในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ 5 บริษัทชั้นนำ ได้แก่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทย ลีสซิ่งกสิกรไทย อินโนพาวเวอร์ และเอสซีจี รูฟฟิ่ง มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ครอบครัวชาวไทยสามารถนำพลังงานสะอาดมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมสำหรับการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตสู่ยุคใหม่ โดยนำระบบนิเวศพลังงานสะอาดมาใช้ในชีวิตประจำวัน เชื่อมโยงสู่การสร้างระบบนิเวศสีเขียวสู่ความยั่งยืนในอนาคต ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ GO GREEN Together สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ณ งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2022


มร. อาราตะ ทาคาฮาชิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของแคมเปญความร่วมมือครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดธรรมดาเท่านั้น แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อน สู่การพลิกโฉมโครงข่ายพลังงานสู่วิถีชีวิตสมัยใหม่ โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าที่ซื้อรถพีเอชอีวีรุ่นนี้ ในประเทศไทย จะสามารถเป็นเจ้าของเดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่จะช่วยให้สามารถบริหารจัดการการผลิต จัดเก็บ และแบ่งปันพลังไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ระหว่างบ้านและรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย”


“โครงการเดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ จะช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่าย รวมถึงค่าไฟฟ้าในระยะยาว รวมทั้งยังช่วย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่มุ่งปกป้องสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน” มร. ทาคาฮาชิ กล่าวเสริม


นายธันว์ เหลียงไพบูลย์ หัวหน้าแผนกการสร้างธุรกิจนวัตกรรม บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด กล่าวว่า “บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด มุ่งเน้นการค้นหาและพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงาน เพื่อสนับสนุนให้คนไทยเข้าถึงพลังงานสะอาดและขับเคลื่อนสังคมไปสู่ Sustainable Ecosystem หรือระบบนิเวศเพื่อความยั่งยืน โดยโครงการนี้เราได้นำเสนอเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Quasar จากแบรนด์ Wallbox ซึ่งเป็นเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก รูปแบบกระแสตรง (Direct Current) สำหรับที่พักอาศัย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ แนวใหม่ของการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาพร้อมกับเทคโนโลยีในการดึงไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถยนต์ จ่ายกลับเข้าไปใช้งานในที่พักอาศัย (Bi-Directional Charger) ซึ่งเทคโนโลยีนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการใช้พลังงานหมุนเวียนที่จะมีลักษณะของการกระจายศูนย์มากขึ้นในอนาคต โดยเครื่องชาร์จรุ่น Quasar นี้เป็นสิทธิบัตรของบริษัท Wallbox ที่ทางบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทย”


ลูกค้าที่ซื้อรถมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ภายในงานมอตอร์ เอ็กซ์โป และขอสินเชื่อกับ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.95% ดาวน์เพียง 25% พร้อมรับฟรีเครื่องอัดและจ่ายประจุไฟฟ้า (bi-directional charger) ยี่ห้อ Quasar มูลค่า 290,000 บาท นอกจากนี้ ยังจะได้รับ ข้อเสนอพิเศษดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือนจากธนาคารกสิกรไทย เมื่อขอวงเงินกู้เพื่อติดตั้งโซลาร์รูฟ พร้อมรับเพิ่มส่วนลดแผงโซลาร์สูงสุด 70,000 บาท จาก เอสซีจี รูฟฟิ่ง ผู้ผลิตหลังคาชั้นนำในประเทศไทย


นางชลารัตน์ พินิจเบญจพล รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า “การผนึกกำลังกันของ ทั้ง 5 องค์กรในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมให้คนไทยมีไลฟ์สไตล์กรีนเพื่อเข้าสู่สังคมไร้คาร์บอน ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ GO GREEN Together ของธนาคารเพื่อผลักดันให้เกิด Green Ecosystem โดยในช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อผลักดันสังคมสีเขียวมาอย่างต่อเนื่อง เช่น สินเชื่อเพื่อการติดตั้งแผงโซลาร์ สินเชื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เช่นเดียวกับความร่วมมือในครั้งนี้ที่มุ่งหวังให้คนไทยได้ใช้ชีวิตกรีนที่ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยการ มอบวงเงินสนับสนุนเพื่อการติดตั้งแผงโซลาร์อัตราดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ”


นายธีรชาติ จิรจรัสพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า “เพื่อสอดรับกับนโยบาย GO GREEN Together สนับสนุนให้คนไทยมีสังคมสีเขียว ลีสซิ่งกสิกรไทยได้ออกแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี และยื่นขอสินเชื่อรถใหม่กับ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.95% โดยลูกค้ามิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี จะได้สิทธิประโยชน์จาก ลีสซิ่งกสิกรไทยตามเกณฑ์สคบ.ใหม่ โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 10 มกราคม 2566 ซึ่งเป็นวันที่เกณฑ์ใหม่มี ผลบังคับใช้ เกณฑ์สคบ.ใหม่ อาทิ การได้ส่วนลดโปะปิดบัญชีก่อนกำหนดแบบขั้นบันไดตามจำนวนงวดที่ผ่อนมาแล้ว ขึ้นอยู่กับเวลาที่มา “โปะปิด” คือ กรณีชำระค่างวดมาแล้วไม่เกิน 1 ใน 3 รับส่วนลด 60% ชำระค่างวดมาแล้วเกิน 1 ใน 3 รับส่วนลด 70% และหากชำระค่างวดมาแล้วเกิน 2 ใน 3 รับส่วนลด 100%”


นายฎายิน เกียรติกวานกุล Head of SCG HOME Consumer Solution Development เอสซีจี กล่าวว่า“ปัจจุบันเอสซีจี มุ่งมั่นดำเนินการเพื่อผลักดันสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในด้านพลังงานสะอาด อย่าง ‘เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชัน’ อย่างเต็มรูปแบบ จึงพัฒนาโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเพื่อให้เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ไฟฟ้าในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นโซลาร์รูฟ ระบบ On Grid เหมาะกับบ้านที่ใช้ไฟในเวลากลางวันเป็นหลัก และระบบ Hybrid ที่ตอบโจทย์ทุกช่วงเวลาของการใช้ชีวิตในบ้าน สามารถกักเก็บไฟฟ้าไว้ใช้ได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน โดยมีแอปพลิเคชันที่สามารถตรวจสอบพฤติกรรมการใช้ไฟ การผลิตไฟฟ้า และค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้อย่างเรียลไทม์ นับเป็นการยกระดับให้การใช้ชีวิตในบ้านเป็น ‘Smart Living’ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งของการอยู่อาศัย”


เทคโนโลยีเดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ พัฒนาโดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คือ นวัตกรรมบริหารจัดการระบบนิเวศของพลังงานไฟฟ้าด้วยการผลิต-จัดเก็บ-และแบ่งปันพลังงานไฟฟ้าโดยเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นกระแสไฟฟ้าผ่านแผงโซลาร์ ระบบนี้ประกอบด้วยรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (พีเอชอีวี) เครื่องชาร์จไฟสองทิศทาง แผงโซลาร์ และแบตเตอรี่สำรองสำหรับใช้ภายในบ้าน (Energy Storage System หรือ ESS)


เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี สามารถชาร์จรถยนต์ของตนเองด้วยการใช้ไฟจากระบบไฟฟ้าและจ่ายไฟฟ้าจากรถยนต์กลับสู่บ้านได้ นอกจากช่วยประหยัดค่าน้ำมัน ทั้งนี้ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ ยังช่วยให้เจ้าของบ้านประหยัดค่าไฟฟ้าด้วยการใช้ไฟฟ้าที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่สำรองสำหรับใช้ภายในบ้านหรือแบตเตอรี่ของรถยนต์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งพลังงานสำรองที่ไว้วางใจได้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินหรือเมื่อเกิดไฟดับ


สำหรับลูกค้าที่สนใจแคมเปญ เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9600 เปิดบริการทุกวันในเวลา 8.30-17.00 น. สามารถติดตามข้อมูลผ่านลิงค์ https://www.mitsubishi-motors.co.th/th/dendodrivehousecampaign


Tags: #MitsubishiMotorsThailand #MitsubishiMotors #DendoDriveHouse #DDH #MitsubishiOutlanderPHEV #KASIKORNBANK #KLeasing #Innopower #SGCRoofing

เกี่ยวกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาศูนย์การผลิตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ทั่วโลก และยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิ ไปยังกว่า 120 ประเทศ ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คือหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ในปี พ.ศ. 2561 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้เปิดทำการ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย อย่างเป็นทางการที่ จ. ปทุมธานี และฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 6 ล้านคัน เมื่อต้นปี 2564 ที่ผ่านมา และ โดยผลิตภัณฑ์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยประกอบด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มิตซูบิชิ แอททราจ มิตซูบิชิ มิราจ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส และมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพสูงสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยใช้สนามทดสอบสมรรถนะในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีในการประเมินผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนารถต้นแบบไปจนถึงการทดลองผลิตและการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด

  • สำหรับลูกค้าที่สนใจชม หรือทดลองขับรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นต่างๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
  • ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ที่

 

Website

:

www.mitsubishi-motors.co.th

Facebook                 

:

www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH

Instagram

:

@MitsubishiMotorsTh

Youtube Channel

:

Mitsubishi Motors Thailand

Line Official Account/ ID

:

Mitsubishi Motors Th / @MitsubishiMotorsTh