มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดโรงงานชวนลูกค้าคนพิเศษ เยี่ยมชมสายการผลิตและเครื่องยนต์สุดล้ำสมัยของออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน

กรุงเทพฯ – 14 ธันวาคม 2566: มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้ลูกค้าคนพิเศษเข้าเยี่ยมชมสายการผลิตประกอบรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน เพื่อสัมผัสเทคโนโลยีสุดไฮเทคและหุ่นยนต์อัจฉริยะสุดล้ำสมัยอย่างใกล้ชิด พร้อมพาชมโรงงานผลิตเครื่องยนต์ใหม่ “ไฮเปอร์พาวเวอร์” ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อรถ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ร่วมด้วยการชมสายการผลิตรถยนต์ “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” ที่โรงงานแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี


ทั้งนี้ ลูกค้าที่ได้เข้าร่วมชมโรงงานต่างรู้สึกตื่นเต้นและประทับใจที่ได้สัมผัสกับสายการผลิตใหม่ของออล-นิว ไทรทัน ซึ่งประกอบด้วยสายการผลิตเชื่อมประกอบตัวถังรถยนต์ ที่ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติสุดไฮเทค เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย โดยมีสัดส่วนกระบวนการอัตโนมัติถึงร้อยละ 95 จากการใช้หุ่นยนต์อัจฉริยะมากกว่า 250 ตัว เพื่อทำงานในจุดที่มีความเสี่ยงสูงหรือต้องการความแม่นยำสูงเกินความสามารถของมนุษย์ โดยมีกำลังผลิตราว 200,000 คันต่อปี ด้วยมาตรฐานระดับสูงเทียบเท่าโรงงานของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศญี่ปุ่น


นอกจากนี้ ลูกค้ายังได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องยนต์ เพื่อสัมผัสกระบวนการผลิตเครื่องยนต์คลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) ซึ่งได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมดสำหรับออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ให้มีพละกำลังที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ให้กำลังแรงและสมรรถนะสูงกว่าเดิม แต่มีมลภาวะต่ำ ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างคุ้มค่า ตอบโจทย์ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก่อนปิดท้ายด้วยการเยี่ยมชมการผลิตรถยนต์ “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” ซึ่งเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นแฟล็กชิพของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส อีกด้วย


ปัจจุบัน โรงงานผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ถือเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วย โรงงานผลิตรถยนต์ 3 แห่ง โรงงานผลิตเครื่องยนต์ 1 แห่ง โรงงานพ่นสีคุณภาพสูง ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีอันทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ใช้งบลงทุนในการก่อตั้ง 3 พันล้านบาท พร้อมด้วยสนามทดสอบรถยนต์แห่งแรกที่ตั้งอยู่นอกประเทศญี่ปุ่น ทำให้มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและการปฏิบัติงานที่สำคัญในเชิงกลยุทธ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ได้ผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกจากไทยไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก และช่วยส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 400,000 ตำแหน่ง ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าการผลิตของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ซึ่งนับเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างความเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ เศรษฐกิจ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย

เกี่ยวกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาศูนย์การผลิตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ทั่วโลก และยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิ ไปยังกว่า 120 ประเทศ ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คือหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ในปี พ.ศ. 2561 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้เปิดทำการ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย อย่างเป็นทางการที่ จ. ปทุมธานี และฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 6 ล้านคัน เมื่อต้นปี 2564 ที่ผ่านมา และ โดยผลิตภัณฑ์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยประกอบด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มิตซูบิชิ แอททราจ มิตซูบิชิ มิราจ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส และมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพสูงสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยใช้สนามทดสอบสมรรถนะในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีในการประเมินผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนารถต้นแบบไปจนถึงการทดลองผลิตและการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด

  • สำหรับลูกค้าที่สนใจชม หรือทดลองขับรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นต่างๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
  • ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ที่

 

Website

:

www.mitsubishi-motors.co.th

Facebook                 

:

www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH

Instagram

:

@MitsubishiMotorsTh

Youtube Channel

:

Mitsubishi Motors Thailand

Line Official Account/ ID

:

Mitsubishi Motors Th / @MitsubishiMotorsTh