5 เหตุผลที่ มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจเป็นซิตี้คาร์ที่เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ในยุคชีวิตวิถีใหม่

กรุงเทพฯ – 6 กันยายน 2564: การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การใช้ชีวิต การทำงาน และการเดินทางสัญจรของเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป การดำเนินชีวิตทั้งหมดของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่เราเรียกว่า ‘ความปกติใหม่’ หรือ ‘New Normal’ เราต้องเพิ่มการป้องกันตนเองในด้านสุขอนามัย และการเว้นระยะห่างทางสังคมเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ พร้อมความเปลี่ยนแปลงในด้านการเดินทางสัญจร ที่ต้องหลีกเลี่ยงจากระบบขนส่งมวลชนที่ผู้ใช้บริการอย่างแออัด จึงส่งผลให้การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลมีความจำเป็นและสำคัญเพิ่มมากขึ้น

และนี่คือ 5 เหตุผลที่ยืนยันว่าเพราะเหตุใด มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ จึงเป็นซิตี้คาร์ที่เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ในช่วงเวลาแบบชีวิตวิถีใหม่นี้

1. การเดินทางที่เหมาะสมในยุค ‘ชีวิตวิถีใหม่’

ถึงแม้ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ชะลอตัว แต่การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลกลับมีความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากมีความปลอดภัยและเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในยุค ‘ชีวิตวิถีใหม่’ ที่ผู้คนต่างต้องรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์ส่วนบุคคลที่เพิ่มสูงขึ้น มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จึงขอแนะนำวิธีการเดินทางที่ชาญฉลาด ปลอดภัย และคุ้มค่าด้วย มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ รถยนต์ซิตี้คาร์ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนเมืองในทุกช่วงอายุที่กำลังมองหาวิธีการเดินทางที่สะดวกสบายและคุ้มค่า มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ ได้รับการออกแบบให้ตัวรถมีขนาดรถที่พอเหมาะสม มีความคล่องตัว และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร DOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ที่ให้ความประหยัดและมีประสิทธิภาพสูงสุด

2. ครบครันด้วยสมาร์ทฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัย

มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกที่ครบครันสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ ซิตี้คาร์ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัส Smartphone - Link Display Audio (SDA) ขนาด 7 นิ้ว ใหม่ ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและรองรับระบบแอปเปิล คาร์เพลย์ พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และการเชื่อมต่อด้วยระบบบลูทูธ มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ ยังครบครันและสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายเทียบเท่ากับรถซีดานระดับบน อาทิ ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ กล้องมองภาพหลังขณะถอยจอด กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ และระบบไฟหน้าอัตโนมัติ

มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ ครบครันด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย ได้แก่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM-LS) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็วเฉพาะด้านหน้า (RMS-Forward) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) และระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL)

มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ มาพร้อมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า รวมถึงระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) ซึ่งทำงานประสานกันเพื่อมอบความมั่นใจให้ผู้ขับขี่บนทุกเส้นทาง รถยนต์ทั้งสองรุ่นยังติดตั้งระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) อีกด้วย

3. มั่นใจได้ทุกการขับขี่

รถยนต์ทุกรุ่นของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มาพร้อมกับความมั่นใจทั้งในด้านคุณภาพ และค่าใช้จ่ายด้านบริการหลังการขายที่เหมาะสมภายใต้สโลแกน ‘เราดูแล คุณแค่ขับ’ ที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าด้วยผู้จำหน่ายทั่วประเทศกว่า 240 แห่ง ด้วยการให้บริการที่ได้มาตรฐาน คุณภาพอะไหล่แท้ ให้บริการด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญและผ่านการฝึกอบรม ตลอดจนความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการด้วยเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ

พร้อมกันนี้ลูกค้ายังจะได้รับแพ็คเกจบริการหลังการขาย ‘Mitsubishi Service Package’ ประกอบด้วย ฟรีค่าบริการเช็คระยะ 5 ปี และฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี โดยบริษัทฯ พร้อมยกระดับมาตรฐานการให้บริการหลังการขายเพิ่มขึ้นด้วยการมอบการรับประกัน 5 ปี และฟรีค่าแรงอีก 5 ปี ให้เป็นการรับประกันมาตรฐาน หรือ มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยออฟชั่นพิเศษ โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ Warranty Plus นานสูงสุดรวม 7 ปี เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้นด้วยค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ไม่แพง และราคาขายต่อที่เหมาะสม

4. รางวัลการันตีความสำเร็จ

มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ สามารถคว้ารางวัล รถยนต์อีโคคาร์ 4 ประตู ราคาคุ้มค่ายอดเยี่ยม และรางวัล รถยนต์อีโคคาร์ ประหยัดน้ำมันยอดเยี่ยม ตามลำดับ โดยรถยนต์ซิตี้คาร์ทั้งสองรุ่นยังคงครองตำแหน่งรถยนต์ที่ได้รับรางวัลดังกล่าวมากที่สุดในเซกเมนต์จากการประกวดรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีที่จัดขึ้นโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเจ็ดรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2564 ที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้รับในปี 2564 นี้ ซึ่งครอบคลุมรถยนต์ทุกรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นนำเสนอรถยนต์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าชาวไทย ทั้งในด้านสมรรถนะ ความปลอดภัย และคุณภาพ

5. ร่วมกันช่วยเหลือสังคมของพวกเรา

ลูกค้าสามารถเลือกซื้อรถยนต์ มิตซูบิชิ ซิตี้คาร์ เพื่อการเดินทางที่คุ้มค่าพร้อมมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม เนื่องในโอกาสฉลองการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยครบ 60 ปี ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ลูกค้าทุกท่านสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของเราในแบบที่ยั่งยืน ด้วยการซื้อรถยนต์ มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ ‘สเปเชียล เอดิชั่น’ โดยบริษัทฯ จะบริจาคเงินจำนวน 2,000 บาทต่อคัน เพื่อร่วมบริจาคเงินให้แก่องค์กรการกุศลต่างๆ ตามปณิธาน 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ ด้านการศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสุขอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทย

มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ ยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่าและครบครันทั้งในด้านเทคโนโลยีระบบความปลอดภัย อุปกรณ์อำนวยความสะดวก พร้อมด้วยความมั่นใจในการขับขี่และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยรถยนต์ซิตี้คาร์ทั้งสองรุ่นนี้ยังได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจและร่วมค้นหาความสำเร็จใหม่ๆ ภายใต้แนวคิดแบรนด์ระดับโลก ‘Drive your Ambition’

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ขอนำเสนอรถยนต์ซิตี้คาร์ทั้ง มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ รุ่นต่างๆ ดังนี้

ราคาจำหน่ายของมิตซูบิชิ แอททราจ

มิตซูบิชิ แอททราจ ACTIVE (M/T)

494,000 บาท

มิตซูบิชิ แอททราจ ACTIVE

529,000 บาท

มิตซูบิชิ แอททราจ Special Edition

543,000 บาท

มิตซูบิชิ แอททราจ SMART

584,000 บาท

ราคาจำหน่ายของมิตซูบิชิ มิราจ

มิตซูบิชิ มิราจ ACTIVE (M/T)

474,000 บาท

มิตซูบิชิ มิราจ ACTIVE

509,000 บาท

มิตซูบิชิ มิราจ Special Edition

523,000 บาท

มิตซูบิชิ มิราจ SMART

579,000 บาท

เกี่ยวกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาศูนย์การผลิตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ทั่วโลก และยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิ ไปยังกว่า 120 ประเทศ ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คือหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ในปี พ.ศ. 2561 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 6 ล้านคัน และได้เปิดทำการ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) อย่างเป็นทางการที่ จ. ปทุมธานี โดยผลิตภัณฑ์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยประกอบด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มิตซูบิชิ แอททราจ มิตซูบิชิ มิราจ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส และ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพสูงสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยใช้สนามทดสอบสมรรถนะในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีในการประเมินผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนารถต้นแบบไปจนถึงการทดลองผลิตและการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด

  • สำหรับลูกค้าที่สนใจชม หรือทดลองขับรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นต่างๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
  • ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ที่

Website

:

www.mitsubishi-motors.co.th

Facebook

:

www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH

Instagram

:

@MitsubishiMotorsTh

Youtube Channel

:

Mitsubishi Motors Thailand

Line Official Account/ ID

:

Mitsubishi Motors Th / @MitsubishiMotorsTh